การอุดฟัน คืออะไร อุดฟันแบบไหนดี มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ครบจบที่เดียว
การอุดฟันหรือ ( tooth filling ) เป็นการรักษาฟันผุกร่อน ฟันเป็นรู ฟันแตก ฟันบิ่นด้วยวิธีการเติมวัสดุสังเคราะห์ เข้าไปที่ตัวฟันเพื่อทดแทนเนื้อฟันที่สูญเสียไป ช่วยป้องกันไม่ให้ฟันผุเพิ่มขึ้น และเพื่อให้กลับมามีรูปร่างฟันตามปกติ สามารถใช้บดเคี้ยวอาหารได้ดีเหมือนเดิม รวมถึงมีความสวยงามอีกด้วย
อุดฟันมีกี่แบบ อุดแบบไหนดี
วัสดุอุดฟันจะมีด้วยกันอยู่ 2 แบบ คือ
1. วัสดุอุดโลหะ Amalgam Filling
2. วัสดุอุดสีเหมือนฟัน Resin Composite Filling
อุดฟันวัสดุสีโลหะ
อุดฟันวัสดุสีโลหะ (Amalgam Filling) เป็นวัสดุอุดฟันที่ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็วและราคาไม่แพง วัสดุชนิดนี้ทำมากจากส่วนผสมของ ปรอท เงิน ดีบุก หรือโลหะ ส่วนใหญ่จะนำมาใช้ในการอุดฟันกรามเพราะวัสดุนี้มีสีเข้ม มองเห็นสีชัดเจนกว่าการอุดฟันแบบคอมโพสิต จึงไม่เหมาะสำหรับฟันหน้าที่ค่อนข้างเน้นเรื่องความสวยงาม
ข้อดีการอุดฟันวัสดุโลหะ
- ราคาไม่แพง
- มีความคงทน แข็งแรงต่อการบดเคี้ยว
- มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก
ข้อเสียการอุดฟันวัสดุสีโลหะ
- มองเห็นสีวัสดุอุดฟันค่อนข้างชัดเจน
- ไม่เหมาะสำหรับฟันหน้าที่เห็นได้ชัด
ข้อควรระวัง สำหรับผู้ที่อุดด้วยวัสดุอุดโลหะ ไม่ควรเคี้ยวอาหารด้านที่อุดฟันเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง เนื่องจากวัสดุที่ใช้ ในระยะแรกยังมีความแข็งแรงไม่เต็มที่ มีโอกาสเสี่ยงต่อการแตกหักได้ สามารถเคี้ยวอาหารได้ปกติภายหลัง 24 ชั่วโมง
อุดฟันวัสดุสีเหมือนฟัน
อุดฟันวัสดุสีเหมือนฟันหรือ (Resin Composite Filling) เป็นการอุดฟันสีเหมือนฟันที่มีความเป็นธรรมชาติ และเป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบันมากที่สุด สามารถใช้อุดฟันได้ทั้งฟันหน้าและฟันกรามเป็นวัสดุอุดที่มีสีใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ จึงมักถูกเลือกใช้สำหรับบริเวณที่ต้องการความสวยงาม วัสดุอุดนี้มีความแข็งแรงพอสมควร แต่รับแรงบดเคี้ยวได้น้อยกว่าวัสดุอุดโลหะจึงไม่นิยมใช้อุดฟันขนาดใหญ่ อาจจะเกิดการบิ่น แตกหักได้ง่าย ขั้นตอนในการทำนั้นจะค่อนข้างยุ่งยากกว่าแบบโลหะ และมีราคาแพงกว่าวัสดุอุดโลหะ นอกจากนี้ในระยะยาวสามารถติดสีคราบจากชา กาแฟ หรือบุหรี่ได้
ข้อดีการอุดฟันวัสดุโลหะ
- ราคาไม่แพง
- มีความคงทน แข็งแรงต่อการบดเคี้ยว
- มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก
ข้อเสียการอุดฟันวัสดุสีโลหะ
- มองเห็นสีวัสดุอุดฟันค่อนข้างชัดเจน
- ไม่เหมาะสำหรับฟันหน้าที่เห็นได้ชัด
นัดเวลาเพื่ออุดฟัน หรือขอคำปรึกษา
โทร : 089-668-7283 หรือ 02-733-1201 หยุดวันศุกร์